การบริหารธุรกิจแบบพุทธ : พุทธทาส

สรุปประเด็น

                        การบริหารแบบพุทธ ต้องบริหารด้วยสติปัญญา ด้วยความไม่เห็นแก่ตัว ไม่บริหารด้วยตัณหากิเลส หรือความอยาก

บทคัดย่อ

                        พุทธ คือ ผู้รู้   ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน  การบริหารเชิงพุทธ คือ บริหารอย่างผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ซึ่งจะต้องบริหารด้วยความพอดี ความไม่เห็นแก่ตัว ทำแล้วได้ประโยชน์ ใช้สติปัญญาในการบริหาร อิงหลักธรรม วิเคราะห์วิจัยเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีทุกข์ทุกขั้นตอนทำงาน ใช้สติปัญญาเมื่อผิดพลาด มีอุดมคติเห็นถูกต้อง สามารถนำไปใช้ในการบริหารเงินหรือเงินทุน บริหารคน และบริหารงานทั่วไป  

1.บทนำ

การบริหารธุรกิจแบบพุทธ โดย พุทธทาสภิกขุ ซึ่งได้บรรยายแก่คณะนักศึกษา เมื่อ 25 ตุลาคม 2531 ผู้เขียนได้ฟังจากเทปบันทึกเสียง จัดทำโดยสำนักพิมพ์สุขภาพใจ กทม. เห็นว่าเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่นำธรรมะมาใช้ในการบริหารธุรกิจ จึงได้เรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อให้สะดวกในการศึกษา และนำเอาไปคิดใช้ประโยชน์ต่อไป

2.แนวคิดแบบพุทธ

2.1 แบบพุทธ
แบบพุทธ(พุด – ทะ) คือผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน
บริหารแบบพุทธ คือ บริหารงานแล้วยังเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบานในทุกขั้นตอนการทำงานของสิ่งที่จะบริหาร
ผู้รู้ คือ รู้ในสิ่งที่ควรรู้ ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด มิเช่นนั้นจะเป็น “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” สิ่งที่จำเป็นคือต้องรู้ในสิ่งที่จะทำงานอย่างแท้จริง และต้องมีสิ่งควบคุมความรู้ เพื่อป้องกันการนำเอาความรู้ไปใช้ในทางที่มิชอบ การรู้ต้องรู้ที่ถูกต้อง ไม่รู้อย่างหลับ เช่นทางไสยศาสตร์ ต้องรู้ว่าต้องพึ่งตนเอง พึ่งธรรมะ มาใช้ในการบริหารในการทำงาน พระพุทธเจ้าเน้น ต้องพึ่งตนเอง ต้องปฏิบัติด้วยตนเองและแก้ไขความผิด ข้อบกพร่องด้วยตนเอง
ผู้ตื่น คือ ตื่นจากหลับ ทั้งทางโลกและทางธรรม
ผู้เบิกบาน คือ มีความเมตตากรุณา ไม่มีอคติ ยึดธรรมะเป็นหลัก ไม่ยึดตัวกูเป็นหลัก และไม่เห็นแก่ตัว
หลักการแบบพุทธ คือ ทุกปัญหาที่พบ จะไม่ทุกข์ ไม่ท้อถอย ไม่ผิดหวังต่อความผิดพลาด มีข้อผิดพลาดก็เอามาแก้ไขโดยไม่ทุกข์
2.2 ธุรกิจมุมมองเชิงพุทธ
โวหาร (โว-หา-ระ) ในเชิงพุทธ คำว่าโวหาร คือทำให้มีสาระ ทำให้มีกำไร หรือค้าขาย หรือการลงทุนค้าขาย หลักการดำเนินชีวิตและธุรกิจต้องมีทั้งเชิงวัตถุ(เปลือก) และเชิงจิตใจ(เนื้อใน) มีดังนี้
ความพอดี : ดำเนินชีวิตด้วยการมีทรัพย์สมบัติพอตัว มีเกียรติพอดี ให้ความเคารพไว้วางใจในเพื่อนมนุษย์ จะได้มีมิตรภาพที่แท้จริงและมั่นคง
ความไม่เห็นแก่ตัว : การบริหารธุรกิจแบบยิว ดำเนินชีวิตด้วยความเห็นแก่ตัวเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง งานจะสำเร็จสันติภาพด้วยมิตร เรียกพ่อสัมพันธ์กัน แค่ 2-3 คน เรียกเพื่อนนั้นสัมพันธ์กันมีมากมายทั่วโลกนับหลายพันล้านคน ความไม่เห็นแก่ตัวคือ เห็นแก่มนุษย์ทั้งโลก(ผู้อื่น) และเห็นแก่ความถูกต้อง ความเห็นแก่ตัวจะทำให้ทิศทางหันเหไปทางอื่นที่ไม่ถูกต้อง ด้วยหวังผลประโยชน์ที่จะตกแก่ตนเป็นหลัก
ทำเพื่อประโยชน์ : ดำเนินชีวิตและธุรกิจให้เกิดประโยชน์ทางวัตถุ ทางร่างกาย และทางจิตใจ
ทำด้วยสติปัญญา : ทำด้วยความหวังตามก้นฝรั่งนั้นไม่ใช่พุทธ การทำงานด้วยความหวัง ทุกข์ไม่หมด เพราะทำด้วยกิเลส ตัณหา หรือความอยากที่จะมี โดยที่ไม่จำเป็นต้องมี คำว่า “สติปัญญานั้นดียิ่งกว่าความหวัง”
อิงหลักธรรมะ : ดำเนินชีวิตและธุรกิจด้วยความเมตตา กรุณา ซื่อสัตย์ และมัธยัสถ์
วิเคราะห์วิจัยเป็นขั้นเป็นตอน : ต้องพิจารณางานปัญหาเป็นชั้นเป็นเชิง เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ทำแบบขวานผ่าซาก บางอย่างก็ไม่อาจถือหลักเกณฑ์เดียวกันทุกงานได้ ต้องมีเหตุผลที่ถูกต้อง แยกแยะด้วยสติปัญญา
ไม่มีทุกข์ทุกขั้นตอนทำงาน : เน้นทางดับทุกข์ ดับปัญหา ไม่ให้เหลือ ตอนคิดจะทำไม่ทุกข์ (ขั้นวางแผน) ทำแล้วไม่ทุกข์ (ขั้นปฏิบัติ) ผลจากการทำงานออกมาดีหรือเลว ก็ไม่ทุกข์ (ขั้นได้รับผล) การใช้ประโยชน์จากผลนั้นก็ไม่ทุกข์ (ขั้นใช้ประโยชน์จากผล) และการเก็บรักษาผลนั้น กรณีใช้ไม่หมด ก็ไม่ทุกข์ (ขั้นเก็บรักษา)
ใช้สติปัญญาเมื่อผิดพลาด : ทำธุรกิจแล้วผิดหวัง ผิดพลาด สูญหาย ขาดทุน ก็ไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์ ความสมหวังทำให้เหลิง (หลงตัวเองว่าเก่ง) ความผิดหวังทำให้คนฉลาด ฉลาดเพราะมีปัญหาให้ลองแก้ปัญหาดู เมื่อรู้วิธีแก้ก็จะนำไปใช้ให้สมหวังในเวลาข้างหน้าในอนาคต เมื่อสมหวังก็จะมีสติปัญญาด้วยโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่ฟลุ๊กงานจึงสำเร็จ
มีอุดมคติเห็นถูกต้อง : ชีวิตไม่ใช่อยู่ด้วยสิ่งที่กินได้เพียงอย่างเดียว ต้องมีความถูกต้องด้วย โดยมีอุดมคติเพื่อความถูกต้อง งานจะผิดพลาดยาก ถ้ามีอุดมคติว่าจะไม่เห็นแก่ตัว ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ผู้อื่นพอใจ (เหมือนทำให้ลูกค้าพึงพอใจ) ถ้าจะได้ประโยชน์มาถึงตัว ก็เป็นเพียงเอามาเป็นค่าใช้จ่ายเป็นทุน เพื่อทำความดีต่อไป “ให้งกงานไม่งกเงิน เพราะงกเงินเสียงาน แต่งกงานได้เงิน”
ความหมายธุรกิจ : ทางพุทธมองว่า “ธุรกิจคือ การแสวงหาประโยชน์ทางวัตถุอย่างมีระบบ” แต่ความหมายของธุรกิจของชาววัด หมายถึง การแสวงหาประโยชน์ทางจิตใจ

3.การบริหารธุรกิจแบบพุทธ

การบริหารระบบงาน
การบริหารระบบงานต้องมีการป้องกันและแก้ไขอุปสรรค ต้องฟันฝ่าอุปสรรค การแก้ไขมีทั้งแบบเฉพาะหน้าหรือแบบตลอดกาลไปเลย การป้องกันปัญหาล่วงหน้าเนิ่นๆ นั้นต้องมีการศึกษาลงเฉพาะถึงรายละเอียดจึงจะสามารถทำได้
การบริหารเงินหรือบริหารทุน
เงิน เป็นปัจจัย ความสามารถหรือสมรรถนะของผู้ดำเนินงานก็เป็นปัจจัย ทุนก็เป็นปัจจัยมีทั้งทุนฝ่ายวัตถุ (รูปธรรม) ได้แก่ เงิน เครื่องจักร ทุนฝ่ายจิตใจ (นามธรรม) ก็มีสติปัญญา ซึ่งต้องจ่างคนที่มีสติปัญญาเข้ามาบริหารงาน
การบริหารคน
ต้องทำคนให้เหมาะกับงาน ถ้าจัดหามาไม่ได้ก็ต้องฝึกให้เหมาะสมกับงานให้ได้ การบริหารคนจะยากที่สุดเพราะคนสามารถโกหกได้ คนยังมีกิเลส และคนบางคนเป็นคนโง่ คนที่ดีเหมาะสมกับงานจะใช้คนซื่อสัตย์อย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องไม่โง่และไม่เห็นแก่ตัวด้วย การมอบหมายงานเป็นการตัดทอนภาระของนายให้ลูกน้องไปทำ ถ้าลูกน้องฉลาดพอก็ไม่ทำให้งานเสียหาย เมื่อมอบหมายงานให้เขาไปทำแล้วก็ต้องไว้ใจเขา
การบริหารคนจะต้องทำอุดมคติให้ตรงกัน ระหว่างนายจ้าง ผู้จัดการ หัวหน้า และลูกน้อง จะได้ไม่ทำไปคนละทิศคนละทาง ขาดเอกภาพ และไม่มีพลัง เช่น ทำเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ ไม่เห็นแก่ตัวกู มิฉะนั้นต่างคนต่างโกงจนบริษัทอยู่ไม่ได้ การอยู่ร่วมกัน ต้องสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจ ต้องรักเขา ไว้ใจเขา ใช้สังคหวัตถุ มีความเอื้อเฟื้อ เป็นเพื่อนกันมากกว่าที่จะเป็นนายที่ดุร้ายกับบ่าว
การบริหารงานทั่วไป
การบริหารงานทั่วไป ก็คือ เอาเรื่องการบริหารทุกเรื่อง เช่น ระบบงาน เงินทุน คน มาเป็นเรื่องเดียวกัน ใช้คุณธรรมในการบริหาร ใช้สัปปุริสธรรม (เหตุ – ผล – ตน – ประมาณ – กาล – ชุมชน – บุคคล) มาใช้ในการบริหาร นายต้องมีสัมมาทิฐิ คือ มีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้อง นายที่คิดผิด หลงผิด หรือมีมิจฉาทิฐิ ทั้งนายและลูกน้อง การบริหารงานย่อมประสบแต่ปัญหาไม่รู้จักจบและซ้ำซาก

4.บทส่งท้าย

การบริหารธุรกิจต้องบริหารด้วยสติปัญญา เป็นบัณฑิต อย่าบริหารกิจด้วยกิเลส ตัณหา ไม่ทำด้วยความหวัง หรือความอยาก เอาสติปัญญามาเป็นประธาน อย่าเอาความอยากมาเป็นประธาน บริหารธุรกิจด้วยความไม่เห็นแก่ตัว เกิดมาเพื่อทำให้ผู้อื่นสบายใจ มีเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และลูกค้า (สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า) ทำงานด้วยอุดมคติ เอาความพอดี ความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ให้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ การกระทำ และผลแห่งการกระทำทุกครั้งที่ทำงานหรือบริหารธุรกิจ
การบริหารธุรกิจแบบพุทธ ต้องเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบานตลอดเวลาทุกขั้นตอนของการทำงาน โดยไม่มีทุกข์ ต้องมีความเห็นที่ถูกต้อง ตามสิ่งที่เป็นจริง ที่สำคัญคือ ไม่ยึดตัวกูของกู

พุทธวิธีบริหาร
Buddhist Style in Management

พุทธบริหาร ( Buddhismman )

 ที่มา : สมหวัง วิทยาปัญญานนท์

คุณคงเคยเห็นโฆษณา Berry สกัด มากมายหลายยี่ห้อ บางคนลองดื่มแล้ว ...เห็นผลตามที่โฆษณาไหม ?

เราขอแนะนำทางเลือกใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ .....Maqui Berry +++++ Berry ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในโลก

เื่พื่อสุขภาพ ผิวพรรณ ลดน้ำหนัก...Maqui Berry เป็นอาหารเสริมไม่ใช่ยา ใช้แล้วเห็นผลเร็ว ไม่มี YO..YO

รายละเอียดเพิ่มเติม

ปกติราคา 1750.00 บาท  พิเศษสั่งซื้อกับ BHIP.blogspot.com 

 _ สั่งซื้อ 1 ขวด          ราคา 1750.00 บาท ฟรีค่าจัดส่ง EMS

 _ สั่งซื้อ 2 ขวด  ขึ้นไปราคา 1600.00 บาท ฟรีค่าจัดส่ง EMS

สั่งซื้อ คลิ๊ก

ราคาพิเศษหาก สมัครสมาชิก

     

โปรโมชั่นนี้ เริ่ม 1 ต.ค. 54- 31 ต.ค. 54 เท่านั้น

 1.Professional สมัครแบบ 24 ขวด (6 ลัง) ราคา 28,700 บาท (1190 บาท/ขวด)  410 BV

             

 2.Executive     สมัครแบบ 12 ขวด (3 ลัง) ราคา 15,400 บาท (1260 บาท/ขวด)
                                                                                                                       220BV
 3.Distributor   สมัครแบบ   4 ขวด (1 ลัง) ราคา   5,600 บาท (1400 บาท/ขวด)
                                                                                                                         80BV
 4.Personal      สมัครแบบ   1 ขวด           ราคา   1,400 บาท (1400 บาท/ขวด)
                                                                                                                         20BV

พิเศษสุดๆ กับโปรโมชั่น ประจำเดือน ตุลาคม 2554

หากท่านตัดสินใจเลือกสมัครสมาชิก bHIP กับ BHIP.blogspot.com

สมัครสมาชิกแบบ

1. สมัครสมาชิกประเภท       Personal      สั่งซื้อสินค้า  เริ่มที่  20 BV
โดยโอนเงินค่าสมาชิก   350 บาท +ค่าสินค้า ตามราคา สมาชิก +ฟรีค่าจัดส่ง

2. สมัครสมาชิกประเภท       Distributor      สั่งซื้อสินค้า เิริ่มที่ 72 BVโดยโอนเงิน ค่าสมาชิกฟรี  +ค่าสินค้า ตามราคา สมาชิก + ฟรีค่าจัดส่ง 

3. สมัครสมาชิกประเภท      Executive        สั่งซื้อสินค้า เริ่มที่ 216 BVโดยโอนเงินค่าสมาชิกฟรี +ค่าสินค้า ตามราคา สมาชิก + ฟรีค่าจัดส่ง

4.สมัครสมาชิกประเภท      Professional    สั่งซื้อสินค้า เริ่มที่  432BV โดยโอนเงินค่าสมาชิกฟรี +ค่าสินค้า ตามราคา สมาชิก + ฟรีค่าจัดส่ง

หมายเหตุ _ สมัครสมาชิกประเภทที่ 2-4 ฟรีค่าสมาชิก (BHIP.blogspot.com เป็นผู้ชำระค่าสมาชิก 350.00บาท แทนท่าน)

สมัครสมาชิก คลิ๊ก

คำเตือน : มากี้เบอร์รี่ เป็นอาหารเสริม ไม่ใช่ยา ....ดื่มเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก ดูแลผิวพรรณ

คำแนะนำ........ดื่ม...น้ำผลไม้มากี้เบอร์รี่ เพื่อลดน้ำหนัก 

                      1.   รับประทานวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 15-30 นาที  เช้า-กลางวัน-เย็น  ครั้งละ 30 ซี.ซี. ( ประมาณ 1 เป็ก แก้วเหล้า)

                        น้ำผลไม้มากี้เบอร์รี่ 1 ขวด รับประทานได้ประมาณ 10 วัน  ( 1 เดือน เท่ากับ 3 ขวด )

                       2. รับประทาน คู่กับ   บี-ไฟเบอร์รี่ (B-FIBERRY)วันละ 1 ซอง ก่อนนอน 

            บี-ไฟเบอร์รี่ (B-FIBERRY) 1 กล่องมีจำนวน 15 ซอง ( 1 เดือน เท่ากับ 2 กล่อง )

                       3. ระหว่างวัน ให้ดื่มน้ำให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย

                                    เช่น หากคุณมี น.น. 60 ก.ก. ให้ใช้วิธีคำนวณดังนี้

                                    60 หารด้วย 30 จะได้ผลลัพธ์ เท่ากับ 2.0 

                                     

                                    (นี่คือปริมาณน้ำที่คุณต้องดื่มอย่างน้อย วันละ 2.0 ลิตร/วัน)

คุ้มสุดๆ กับการลดน้ำหนัก 1-5 ก.ก./เดือน   มหัศจรรย์แห่งโภชนาการลดน้ำหนักและสัดส่วนอย่างถาวร

มากี้เบอร์รี่      3 ขวด x 1600        = 4800 บาท

B-FIBERRY   2 กล่อง x 1400     = 2800 บาท

รวมค่าใช้จ่าย/เดือน                      = 7600 บาท 

ประสบการณ์ผู้ดื่ม มากี้เบอร์รี่